เปิดตัวเลขผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในระยะเวลาร่วม 20 ปี จากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กว่า 20,000 คน เสียงจากประชาชนเรียกร้องทุกฝ่ายหยุดความรุนแรงและการละเมิดสิทธิมนุษยชน เร่งให้รัฐบาลเดินหน้ากระบวนการพูดคุยสันติสุขให้ต่อเนื่อง ทั้งฝากความหวังไว้ที่พรรคการเมืองและสส.ในการสร้างสันติภาพชายแดนใต้
เมื่อวันที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ที่คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มีการแถลงผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 7 โดยเครือข่ายวิชาการ PEACE SURVEY เพื่อเสนอ 7 ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย เพื่อสร้างสันติภาพชายแดนใต้ ซึ่งเป็นการประมวลผลข้อมูลเชิงปริมาณจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 1,312 คน และข้อมูลเชิงคุณภาพจากการสัมภาษณ์ผู้นำความคิดเห็น ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาและประชาชนกลุ่มต่างๆ ทั้งในและนอกพื้นที่ จำนวน 85 คน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรีสมภพ จิตร์ภิรมย์ศรี อาจารย์ประจำสถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในฐานะประธานคณะทำงานวิชาการเครือข่าย Peace Survey ได้ให้ข้อมูลบทสรุปสถานการณ์ความรุนแรงจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในช่วงเวลาตั้งแต่ พ.ศ.2547จนถึงปัจจุบันว่า ได้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบจำนวน 22,166 ครั้ง ความรุนแรงดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 7,520 คน และผู้บาดเจ็บ 13,968 คน แม้ว่าแนวโน้มสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ลดลงอย่างเป็นระบบตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 หลังจากการพูดคุยสันติภาพในครั้งแรก และเหตุการณ์ความไม่สงบลดลงตามลำดับจนถึงปี พ.ศ. 2563 ซึ่งเป็นปีที่มีการระบาดของโควิด-19
ในรายงานผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนนั้น ได้มีการนำเสนอ 7 ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อสร้างสันติภาพชายแดนใต้ ข้อเสนอแนะที่สำคัญลำดับต้น ๆ คือ การเรียกร้องให้ดำเนินมาตรการลดความรุนแรงต่อประชาชน รวมทั้งการเร่งแก้ปัญการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งประชาชนกว่าร้อยละ 80 ในการสำรวจเห็นว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการสร้างสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งความรุนแรงที่เป็นทางตรง เช่น การก่อเหตุรุนแรงที่สร้างผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน การปะทะด้วยกำลังอาวุธ การทำร้ายร่างกาย การวิสามัญฆาตกรรม และที่เป็นความรุนแรงเชิงโครงสร้าง เช่น ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ การเลือกปฏิบัติ และการการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
ข้อเสนอแนะอื่นที่เป็นทางออกสำหรับการสร้างสันติภาพชายแดนภาคใต้นั้น เครือข่าย Peace Survey ได้สังเคราะห์จากความคิดเห็นของประชาชน ประกอบด้วย การให้มีกลไกทางการเมืองและกลไกทางกฎหมายรองรับกระบวนการพูดคุยที่ครอบคลุมทุกฝ่าย การพัฒนาและปรับปรุงกลไกการสื่อสารเพื่อสร้างการรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างแพร่หลาย การเพิ่มบทบาทของประชาชนเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมทุกฝ่าย การกระจายอำนาจการปกครองให้สอดคล้องกับลักษณะเฉพาะของพื้นที่ และข้อเสนอแนะสุดท้าย คือ การมุ่งเน้นพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์บนฐานทุนทางสังคมและวัฒนธรรมของพื้นที่ เพื่อนำไปสู่โอกาสการสร้างสันติภาพเชิงบวกและยั่งยืน
ข้อมูลที่น่าสนใจจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ยังพบว่าประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 70.1 สนับสนุนการพูดคุยสันติภาพ รวมทั้ง มีความไว้วางใจต่อพรรคการเมือง/นักการเมืองระดับชาติ (สส.) ในการสร้างสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้สูงที่สุดเป็นอันดับที่หนึ่ง คือ ร้อยละ 28
สำหรับเครือข่ายวิชาการ Peace Survey นี้เป็นความร่วมมือของสถาบันวิชาการและองค์กรภาคประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีพันธกิจและบทบาทในการทำงานเพื่อสันติภาพและการพัฒนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ สถาบันพระปกเกล้า มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เครือข่ายภาคประชาสังคม และสถาบัน/องค์กรอื่นๆ อีกจำนวน 25 องค์กร โดยได้ดำเนินการวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) เพื่อศึกษาสภาพความเป็นอยู่ ความคิดเห็นของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ประกอบด้วยจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสี่อำเภอของจังหวัดสงขลา ได้แก่ อำเภอจะนะ เทพา นาทวีและสะบ้าย้อย) ต่อปัญหาความไม่สงบ การสร้างสันติภาพและประเด็นอื่น ๆ ที่มีความสำคัญในพื้นที่ รวมทั้งสาเหตุของปัญหาและข้อเสนอแนะต่อกระบวนการสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี พ.ศ.2559
ทั้งนี้ มีตัวแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน และตัวแทนผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนนักวิชาการ นักศึกษา อดีตเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ภาคประชาสังคม สื่อมวลชน เยาวชนคนรุ่นใหม่ ร่วมอภิปรายและแลกเปลี่ยนความเห็นในครั้งนี้ด้วย