เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา สถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้ สถาบันสันติศึกษา และคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ร่วมกับ สภาประชาสังคมชายแดนใต้ ได้จัดวงสนทนาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายใต้โครงการบรรยายสาธารณะ เรื่อง ถอดบทเรียนเส้นทางร่าง พรบ. คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์กับนัยยะสำคัญต่อพื้นที่ชายแดนใต้
ณ สำนักงานสภาประชาสังคมชายแดนใต้ ชั้น 1 อาคาร 51 B ห้อง We Center พิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติและเครือข่ายเรียนรู้ท้องถิ่น คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี
โดยมีวิทยากร 2 ท่าน จาก คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ พ.ศ. .... สภาผู้แทนราษฎร คือ คุณอภินันท์ ธรรมเสนา ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารสังคมและขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) และคุณจตุรนต์ เอี่ยมโสภา รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี
ดำเนินรายการโดย คุณอิมรอน ซาเหาะ สถานวิจัยความขัดแย้งและความหลากหลายทางวัฒนธรรมภาคใต้ สถาบันสันติศึกษา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์/ประธานกลุ่มงานสิทธิพลเมืองและประชาธิปไตย คณะกรรมการบริหารสภาประชาสังคมชายแดนใต้
กล่าวต้อนรับโดย ผศ.ดร.ยาสมิน ซัตตาร์ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ วิเทศสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และกล่าวเปิดงานโดย คุณลม้าย มานะการ ประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้
ประเด็นสำคัญของงานเสวนาในครั้งนี้ คือ ความเป็นมาและความสำคัญของ พ.ร.บ. คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่ง พ.ร.บ. ฉบับนี้เกิดขึ้นเพื่อคุ้มครองสิทธิ ความหลากหลาย และวิถีชีวิตดั้งเดิมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ ในประเทศไทย ทั้งยังเป็นเครื่องมือทางกฎหมายเพื่อให้ความสำคัญกับการดำรงอยู่ของอัตลักษณ์ วัฒนธรรม ภาษา และภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยกระบวนการร่าง พ.ร.บ. มีการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน นักวิชาการ และองค์กรต่างๆ
กระบวนการร่างและบทเรียนที่ได้ คือ การผลักดันกฎหมายลักษณะนี้ต้องเผชิญกับข้อจำกัดทางการเมืองและโครงสร้างรัฐรวมศูนย์ ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องสร้างการรับรู้ในสังคมวงกว้าง ไม่ให้ถูกมองว่าเป็นกฎหมายเฉพาะกลุ่ม แต่เป็น “กฎหมายเพื่อความเสมอภาคและอยู่ร่วมกัน” มีบทเรียนจากการทำงานเชิงเครือข่ายระหว่างภาควิชาการ องค์กรประชาสังคม และกลุ่มชาติพันธุ์เอง
ส่วนนัยยะต่อพื้นที่ชายแดนใต้นั้น ประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ศาสนา และวัฒนธรรม ซึ่ง พ.ร.บ. นี้จะช่วยสร้างความมั่นใจว่ารัฐจะเคารพสิทธิในการดำเนินชีวิตตามอัตลักษณ์ เช่น ภาษา การศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรมท้องถิ่น อีกทั้งยังสามารถลดความรู้สึก “ถูกกดทับ” หรือ “ถูกทำให้เป็นชายขอบ” ของชุมชนชาติพันธุ์ในพื้นที่ ที่สำคัญยังสนับสนุนการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ผ่านการยอมรับความหลากหลาย
ทั้งนี้ ความท้าทายและก้าวต่อไป คือ ความเข้าใจและการยอมรับของสังคมวงกว้าง ตลอดจนกลไกในการทำให้กฎหมายถูกบังคับใช้อย่างจริงจัง ไม่ใช่เพียง “ตัวหนังสือ” สิ่งที่สำคัญก็คือการสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐ ท้องถิ่น และชุมชนชาติพันธุ์
งานเสวนานี้มุ่งชี้ให้เห็นว่า พ.ร.บ. คุ้มครองและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์ ไม่ใช่แค่เรื่องของชนกลุ่มน้อย แต่เป็นเรื่องของ สิทธิ ความเสมอภาค และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนใต้ที่มีความหลากหลายสูง
รับชมวงสนทนาย้อนหลัง คลิ๊ก ที่นี่









